จังหวัดนราธิวาส

Image

ข้อมูลทั่วไป

จังหวัด “นราธิวาส” เดิมชื่อ "มะนารอ" มีฐานะเป็นเพียงอำเภอหนึ่ง เรียกว่า อำเภอบางนราขึ้นกับเมืองสายบุรี หนึ่งในเจ็ดหัวเมืองภาคใต้ ต่อมาได้โอนไปขึ้นกับเมืองระแงะ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองเช่นกัน โดยประวัติความเป็นมาของนราธิวาส มีความเชื่อมโยงกับเรื่องราวของเมืองปัตตานี เมืองสายบุรีและเมืองระแงะ และใน พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสมณฑลปักษ์ใต้ทรงพระราชทานพระแสงราชศัสตราประจำเมืองและทรงดำริเห็นว่า บางนรานั้นเป็นแต่ชื่อตำบลบ้าน สมควรจะมีชื่อเมืองไว้ให้เป็นหลักฐานต่อไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมือง “บางนรา” เป็น "เมืองนราธิวาส" หมายถึง "ที่อยู่อันยิ่งใหญ่ของประชาชน" เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2458 ต่อมาใน พ.ศ. 2476 ได้มีการปรับปรุงระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาคครั้งยิ่งใหญ่ และให้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นจังหวัดเมืองนราธิวาส จึงเปลี่ยนเป็น "จังหวัดนราธิวาส" จากนั้น เป็นต้นมาจังหวัดนราธิวาส มีชายแดนที่ เชื่อมกับรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ทั้งทางบกและทางน้ำมีเขตแดนติดต่อกันยาวประมาณ 178.60 กิโลเมตร มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศมาเลเซีย รวม 3 ด่าน คือ(1) ด่านสุไหงโก-ลก มีพื้นที่ 61 ไร่ ในอำเภอสุไหงโก-ลก เชื่อมเมือง Rangtau Panjang รัฐ Kelantan (2) ด่านตากใบ มีพื้นที่ 34 ไร่ ในอำเภอตากใบ เชื่อมเมือง Tumpat รัฐ Kelantan และ (3) ด่านบูเก๊ะตาพื้นที่ 49 ไร่ ในอำเภอแว้ง เชื่อมเมือง Bukit Bunga รัฐ Kelantan

จังหวัดนราธิวาสมีการปกครองส่วนภูมิภาคแบ่งออกเป็นระดับอำเภอ จำนวน 13 อำเภอ ระดับตำบล จำนวน 77 ตำบล และระดับหมู่บ้าน จำนวน 589 หมู่บ้าน

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ

1.ศาลเจ้าโก้วเล่งจี่

เป็นศาลเจ้าแห่งแรกของชาวจีนในตัว จ.นราธิวาส เดิมเป็นศาลไม้เก่าแก่ อายุประมาณ 40 ปี คนไทยเชื้อสายจีนที่ได้มาอาศัยอยู่ใน จ.นราธิวาส ที่มีความศรัทธาต่อองค์เทพเจ้าจีน จึงได้สร้างศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อประกอบพิธีมงคลต่างๆ และให้ลูกหลานกราบไหว้ขอพรเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ที่แปลกไปจากศาลเจ้าอื่นๆ คือ ศาลเจ้าโก้วเล้งจี่ มีเจ้าที่หรือเจ้าศาล เป็น “หัวมังกรคาบแก้ว” ซึ่งมีลำตัวใหญ่ยาวมาก คอยปกปักรักษาดูแลลูกหลานชาวไทยโดยแต่ละวันจะมีคนมากราบไหว้บนบานศาลกล่าวขอพรเป็นประจำ

2.มัสยิดวาดีลฮูเซ็น มัสยิด 300 ปี

โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้ตะเคียนทั้งหลัง ผสมผสานศิลปะไทย จีน และมลายูเข้าด้วยกันอย่างมีเอกลักษณ์ สถานที่อันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์วัฒนธรรมทางศาสนา และมีสถาปัตยกรรมอันสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมของพื้นที่ ผ่านกาลเวลามายาวนานนับร้อยปี สร้างขึ้นโดยนายวันฮูเซ็น อัส-ซานาวี ผู้อพยพมาจากบ้านสะนอยานยา จังหวัดปัตตานีเมื่อ พ.ศ. 2167

3.สะพานคอย 100 ปี เกาะยาว

สะพานไม้ชื่อ “สะพานคอย 100 ปี” ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำตากใบไปยังเกาะยาว ซึ่งมีพื้นที่ติดกับทะเล มีหาดทรายละเอียดสีน้ำตาล บรรยากาศสงบ  มีทิวมะพร้าวเรียงรายเป็นแนวยาวสวยงาม บรรยากาศร่มรื่นเหมาะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจมีความยาว 345 เมตร เดิมเป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวข้ามผ่านแม่น้ำตากใบจากแผ่นดินใหญ่ไปสู่ เกาะยาว แต่ปัจจุบันได้มีการสร้างสะพานปูนแข็งแรงและสวยงามทอดยาวขนาบไปกับสะพานไม้อันเก่า กลายเป็นเส้นทางหลักในการสัญจรของชาวบ้าน

4.หาดนราทัศน์

ตั้งอยู่ในตัวเมืองนราธิวาส เป็นชายหาดที่มีความสวยงาม โค้งหาดยาวต่อเนื่องประมาณ 5 กิโลเมตร มองเห็นได้ไกลจนสุดลูกหูลูกตา จรดกับปลายแหลมปากแม่น้ำบางนราทางทิศใต้ เป็นหาดที่มีความสวยงาม หาดทรายขาว ร่มรื่นด้วยทิวสนมากมาย อีกทั้งยังมีลมพัดเย็นบรรยากาศเป็นส่วนตัว ทำให้หาดนราทัศน์เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองนราธิวาส และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเสมอ ยังมีหมู่บ้านชาวประมงตั้งกระจายเป็นระยะ ๆ ชายหาดช่วงที่อยู่ด้านหน้าหมู่บ้านจะมีเรือนกอและจอดเรียงรายอย่างสวยงาม โดยเฉพาะลักษณะของเรือกอและที่มีการวาดลวยลายอันวิจิตร ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาวใต้ ริมหาดนี้ยังมีร้านอาหารเรียงรายอยู่หลายร้าน
สำนักงานฝ่ายเลขานุการฯ CMGF (CMGF Secretariat Thailand)

สำนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และพันธกิจสังคม (OMS) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาคารศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ (LRC1) ชั้น 1 โทร 074-286977 โทรสาร 074-286971