จังหวัดพัทลุง

Image

ข้อมูลทั่วไป

             จังหวัดพัทลุง มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ดังปรากฏหลักฐานจากการค้นพบขวานหินขัดในท้องที่ทั่วไปหลายอำเภอในสมัยศรีวิชัย (พุทธศตวรรษที่ 13 -14) บริเวณเมืองพัทลุงเป็นแหล่งชุมนุมที่ได้รับวัฒนธรรมอินเดีย นับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน หลักฐานค้นพบ เช่น พระพิมพ์ดินดิบจำนวนมากเป็นรูปพระโพธิสัตว์รูปเทวดา โดยค้นพบบริเวณถ้ำคูหาสวรรค์ และถ้ำเขาอกทะลุ ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 19 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมืองพัทลุงมีฐานะเป็นเมืองชั้นตรี ซึ่งนับว่าเป็นหัวเมืองหนึ่งของพระราชอาณาจักรทางใต้ ในสมัยนั้นเมืองพัทลุงมักจะประสบปัญหาการโจมตีจากกลุ่มโจรสลัดมาเลย์อยู่เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มโจรสลัดอาแจะอารู และยุยงคตนะ ได้โจมตีเผา ทำลายสร้างความเสียหายแก่เมืองพัทลุง ถึงสองครั้ง ปัญหาดังกล่าวนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีการย้ายสถานที่ตั้งเมืองอยู่เสมอ และก็เป็นมูลเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวเมืองพัทลุงเป็นนักต่อสู้ที่เข้มแข็ง ในสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ ได้มีการย้ายสถานที่ตั้งเมืองอีกหลายครั้ง และได้ยกขึ้นเป็นเมืองชั้นโท ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชในช่วงนี้เมืองพัทลุงมีผู้นำสำคัญในการสร้างความเจริญ และความมั่นคงให้กับบ้านเมืองหลายท่าน อาทิเช่น พระยาพัทลุง (ขุนคางเหล็ก) พระยาวิชิตเสนา (ทองขาว) พระยาอภัยบริรักษ์ (จุ้ย จันทโรจนวงศ์) ได้ป้องกันเอกราชของชาติมาหลายครั้ง เช่น เมื่อสงครามเก้าทัพ (พ.ศ.2328- 2329) พระมหาช่วย วัดป่าลิไลย์ ได้น าชาวพัทลุงต่อสู้ป้องกันการรุกรานของพม่าจนได้รับความดีความชอบโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระยาช่วยทุกข์ราษฎร์ จังหวัดพัทลุงตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภาคใต้ของประเทศไทย ระหว่างละติจูดที่ 7 องศา 6 ลิปดาเหนือ ถึง 7 องศา 53 ลิปดาเหนือ และลองติจูดที่ 99 องศา 44 ลิปดาตะวันออก ถึง 100 องศา 26 ลิปดา ตะวันออก ห่างจากกรุงเทพมหานครตามเส้นทางรถยนต์ทางหลวงสายเอเชียทางหลวง(หมายเลข 41เป็นระยะทาง ประมาณ 856 กิโลเมตร และตามเส้นทางรถไฟเป็นระยะทางประมาณ 846 กิโลเมตร ความยาวของจังหวัดจากทิศเหนือไปทิศใต้ประมาณ 83 กิโลเมตรและความกว้างจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตกเป็นระยะทางประมาณ 56 กิโลเมตร

จังหวัดพัทลุงมีการปกครองส่วนภูมิภาคแบ่งออกเป็นระดับอำเภอ จำนวน 11 อำเภอ ระดับตำบล จำนวน 65 ตำบล และระดับหมู่บ้าน จำนวน 670 หมู่บ้าน

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ

1.บ่อน้ำร้อนชัยสน

เป็นที่เที่ยวพัทลุงที่มีความสำคัญและมีคุณค่าทางธรรมชาติทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดพัทลุงเลยล่ะค่ะ น้ำร้อนทีนี่เกิดขึ้นเป็นลักษณะพื้นที่ที่เกิดจากความร้อนใต้พิภพ ทำให้บริเวณนี้มีน้ำร้อนตลอดเวลา นอกจากมีบ่อน้ำร้อนแล้วเขายังมีบ่อแช่เท้า แน่นอนว่าทั้งวันจะมีนักท่องเที่ยวมาแช่ตลอดเวลา แอบบอกว่าเขามีห้องส่วนตัวสำหรับใครที่อยากแช่ตัวด้วยนะคะ ฟิลแบบเจแปนออนเซนเบา ๆ เลย

2.ทะเลน้อย

ทะเลน้อยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแรมซาร์ไซต์แห่งแรกของประเทศไทย และด้วยความอุดมสมบรูณ์ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าทั้งทางธรรมชาติ และคุณค่าทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ใครไปสามารถแวะซื้อของฝากกลับบ้านได้เลยค่ะ มีทั้งผลิตภัณฑ์จากกระจูด ชิมไข่ปลา เอาติดมือกลับไปไม่ผิดหวังแน่นอน

3.สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ฯ

สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ฯ หรือ สะพานเอกชัย สะพานข้ามทะเลสาบที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เริ่มจากทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ไปสู่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ตลอดเส้นทางจะได้เห็นวิวทิวทัศน์และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติของทะเลน้อยทั้งสองฝั่ง บนสะพานยังมีจัดทำจุดชมวิวหลายจุดสามารถจอดรถชมวิวตลอดสองข้างทาง บริเวณทะเลน้อยยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกน้ำหลากหลายชนิดสามารถเห็นนกน้ำบินโฉบไปมาในช่วงเย็นสามารถมาชมพระอาทิตย์ที่ส่องแสงกระทบผิวน้ำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่สวยงามบนสะพานแห่งนี้

4.ควนนกเต้น

จุดชมวิวอันแสนสวยงามตั้งอยู่ในอำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ที่จะได้พบกับธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ วิวของเทือกเขาบรรทัดและสายหมอกในยามเช้า เป็นภาพที่ไม่ได้คาดคิดว่า จะมีสถานที่บรรยากาศคล้ายเที่ยวดอยทางภาคเหนือซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดพัทลุง จังหวัดที่หลายคนมักติดภาพไปทางแนวทะเลมากกว่า ทั้ง แค่ทะเลน้อย บ้านปากประ  ควนนกเต้น คือ อีกหนึ่งที่เที่ยวน่าสนใจสำหรับคนที่ชื่นชอบและหลงใหลวิวของภูเขาและผืนป่าเขียว  มีที่พักหลายแห่งกระจายไปในแต่ละจุด ตั้งแต่บริเวณทางขึ้น ไปจนถึงที่อยู่บริเวณจุดชมวิวให้พักผ่อนคลาย
สำนักงานฝ่ายเลขานุการฯ CMGF (CMGF Secretariat Thailand)

สำนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และพันธกิจสังคม (OMS) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาคารศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ (LRC1) ชั้น 1 โทร 074-286977 โทรสาร 074-286971