จังหวัดสุราษฎร์ธานี

Image

ข้อมูลทั่วไป

    ดินแดนบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ที่เรียกว่าอ่าวบ้านดอน ในทุกวันนี้ นักโบราณคดีได้สันนิษฐานไว้ว่า ผู้คนชาวพื้นเมืองอาศัยอยู่กันมาตั้งแต่หนึ่งพันสี่ร้อยปีก่อนแล้ว หรือประมาณพุทธศตวรรษที่ 11 – 12 นั่นเอง ครั้งกระนั้นมีชาวอินเดียแล่นเรือมาถึงเมืองตะกั่วป่าและเดินทางเลาะเลียบลำน้ำตะกั่วป่าไปสู่เชิงเขาหลวง ข้ามเขาเดินเลียบริมแม่น้ำหลวงเรื่อยมาจนถึงปากอ่าวบ้านดอนชาวอินเดียเป็นผู้มีวิชาความรู้เหนือชนพื้นเมือง จึงได้เผยแพร่วัฒนธรรมของตนไว้ในดินแดนเหล่านี้ สมัยนั้นเป็นเวลาแห่งความรุ่งเรืองของอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งนักโบราณคดีชาวอังกฤษดอกเตอร์ควอริตย์ เวลส์ และศาสตราจารย์ ศรีศักร วัลลิโภดม ให้ความเห็นสนับสนุนว่าศูนย์กลางอาณาจักรศรีวิชัยอยู่ที่บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในฐานะจังหวัดที่มีความสำคัญด้านการท่องเที่ยวของประเทศเพราะนับตั้งแต่อาจารย์เดโช บุญชูช่วย ปราชญ์ชาวสุราษฎร์ธานี ได้เขียนบทกลอนใน การสัมมนาการท่องเที่ยว 14 จังหวัดภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2525

     จังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของภาคใต้ ห่างจากกรุงเทพฯ โดยทางรถยนต์ประมาณ 645 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 13,079.61 ตารางกิโลเมตร หรือ 8,174,756.25 ไร่ มีเนื้อที่มากเป็นอันดับ 6 ของประเทศและมีพื้นที่มากที่สุดในภาคใต้ ฝั่งทะเลด้านอ่าวไทยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีความยาวประมาณ 156 กิโลเมตร มีเกาะขนาดใหญ่ ได้แก่ เกาะสมุย เนื้อที่ 227.25 ตารางกิโลเมตร เกาะพะงัน มีเนื้อที่ 194.2 ตารางกิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีหมู่เกาะอ่างทอง และเกาะบริวาร 42 เกาะ เกาะสมุยเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด ห่างจากฝั่งทะเลประมาณ 20 กิโลเมตร และห่าง จากศาลากลางจังหวัดประมาณ 80 กิโลเมตร

จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีการปกครองส่วนภูมิภาคแบ่งออกเป็นระดับอำเภอ จำนวน 19 อำเภอ ระดับตำบล จำนวน 131 ตำบล และระดับหมู่บ้าน จำนวน 1,074 หมู่บ้าน

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ

1. เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่สุดในจังหวัดสุราษฏร์ธานี เป็นเขื่อนที่กินอาณาบริเวณกว้างขวางถึง 500 ไร่ มีทัศนียภาพสวยงาม ไปด้วยภูเขาและชะง่อนผาหินปูนที่โอบล้อมอยู่โดยรอบ ไฮไลท์เด็ดของเขื่อนเชี่ยวหลานนั้นก็คือ หินสามเกลอ หรือที่รู้จักกันในนามของกุ้ยหลินเมืองไทยและกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูฝูงปลาและปะการังไปจนถึงการพายเรือคายัคก็เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมไม่น้อย นอกจากนี้ที่เขื่อนเชี่ยวหลานยังมีที่พักเก๋ๆ กลางเขื่อนเอาไว้ให้คุณนอนเอกเขนกและทอดอารมณ์ดื่มดำความสวยงามของที่นี่ ได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าหากใครได้แวะเข้ามาที่นี่จะต้องร้องว้าว ไม่อยากกลับออกมาสู่โลกภายนอกเลยทีเดียว

2.วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร

มีความงดงามของสถาปัตยกรรมในสมัยกรุงศรีวิชัยที่สวยงามและสมบูรณ์แบบที่สุดจนได้รับการยกย่องให้เป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศ ไฮไลท์เด็ดของวัดพระบรมธาตุไชยาฯ แห่งนี้ก็คือ พระพุทธรูปที่สลักเสลาขึ้นจากศิลาทรายสีแดงที่มีความงดงามและเป็นเอกลักษณ์ของฝีมือช่างไชยาในสมัยนั้น อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์สถานที่ได้รวบรวมโบราณวัตถุสมัยกรุงศรีวิชัยที่ขุดพ้นในบริเวณโดยรอบวัดแห่งเอาไว้ให้คุณได้เข้าไปเยี่ยมชม

3.เกาะเต่า

เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่วล่องลอยอยู่ใจกลางทะเล มีชายหาดมากถึง 11 แห่งไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกไลฟ์สไตล์เช่น หาดทรายรี เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการกินดื่ม พบปะสังสรรค์ หาดฟรีด้อม เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวสายชิลที่ต้องการความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว เกาะเต่านั้นเป็นเกาะที่ได้ชื่อว่ามีโลกใต้น้ำที่สวยที่สุดในประเทศไทย เหมาะกับกิจกรรมดำน้ำทั้งลึกและตื้น มีสัตว์ทะเลน้อยใหญ่และปะการังสวยงามสมบูรณ์แบบมากที่สุดที่ใครเห็นเป็นต้องทึ่ง 

4.เกาะพงัน

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับโลกแห่งนี้ ด้วยความห่างไกลของเกาะที่ต้องใช้เวลาเดินทางนานนับชั่วโมง ทำให้เกาะพงันนั้นยังมีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์และเงียบสงบเพราะแทบไม่ได้รับการรบกวนจากมนุษย์มากนัก ไฮไลท์เด็ดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ดั้นด้นเดินทางมาถึงเกาะพะงันแห่งนี้ก็คือการเข้าร่วมฟูลมูนปาร์ตี้ โดยฟูลมูนปาร์ตี้นั้นจะจัดขึ้นเดือนละ 2 ครั้งในคืนพระจันทร์เต็มดวง โดยชาวบ้านจะเนรมิตรให้หาดริ้นเป็นสถานที่แฮงเอ้าท์ กิน ดื่มสุดมันที่เราจะได้พบปะสังสรรค์กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก นับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมน่าสนใจ ที่จะเปิดโลกทัศน์ของคุณให้กว้างไกลมากขึ้นกว่าเดิม
สำนักงานฝ่ายเลขานุการฯ CMGF (CMGF Secretariat Thailand)

สำนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และพันธกิจสังคม (OMS) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาคารศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ (LRC1) ชั้น 1 โทร 074-286977 โทรสาร 074-286971