จังหวัดพังงา

Image

ข้อมูลทั่วไป

จังหวัดพังงาเคยเป็นเมืองท่าการค้าที่สำคัญของแหลมมลายูทาฝั่งตะวันตก พ่อค้าต่างชาติสมัยโบราณ อย่างอินเดีย จีน และอาหรับ จะใช้แม่น้ำตะกั่วป่าล่องสินค้า และขนสินค้าต่อทางบก เพื่อไปยังอีกฝั่งหนึ่งของแหลมมลายูได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสมัยนั้นระบุว่า หัวเมืองริมฝั่งทะเลอันดามันอย่างตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่งและถลาง ล้วนเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรศรีวิชัย จนเมื่ออาณาจักรสุโขทัยเรืองอำนาจได้เข้าปกครองศรีวิชัย จึงได้ตั้งเมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองเอก แล้วน าหัวเมืองทั้ง 3 มาเป็นเมืองขึ้นด้วยสมัยกรุงศรีอยุธยา ตะกั่วป่ามีฐานะเป็นหัวเมืองทางใต้ ส่วนเมืองพังงาเป็นเมืองแขวง ขึ้นอยู่กับเมืองตะกั่วป่า สมัยนั้นเมืองนครศรีธรรมราชเป็นหัวเมืองเอก และมีหัวเมืองต่างๆ ขึ้นกับเมืองนครศรีธรรมราชหลายเมืองรวมถึงเมืองตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง และเมืองถลางด้วย ปี พ.ศ. 2328 คราวศึกลาดหญ้าในสมัยรัชกาลที่ 1 พม่ายกกองทัพมาปล้นสะดมเมืองตะกั่วป่าอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2352 ในการนี้พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระน้องยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงเสนานุรักษ์กรมพระราชวังบวร ยกทัพหลวงมาช่วย จากกรุงเทพฯ และได้มาทันขับไล่ทหารพม่าหลบหนีไป ระหว่างศึกได้มีราษฎรบางส่วนอพยพไปหลบภัยอยู่ที่ กราภูวา ( ภาษามลายู แปลว่า ปากน้ำ ภูเงา ) ที่มีภูเขาล้อมรอบ ครั้นเสร็จศึกแล้วกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ ทรงพระราชดำริว่า พม่าได้เผาเมืองถลาง ทำให้บ้านเมืองอ่อนแอยากที่จะสร้างขึ้นใหม่ จึงโปรดให้รวบรวมพลเมือง จากถลางข้ามฟากมาตั้งภูมิลำเนาอยู่ที่ กราภูเงา และจัดการปกครองขึ้นเป็นเมือง จนกระทั่ง พ.ศ. 2383 เมืองตะกั่วป่า เริ่มเป็นปึกแผ่นมากขึ้น ความร่ำรวยจากการค้าขายแร่ดีบุกที่เมืองตะกั่วป่า ในระหว่างปี พ.ศ. 2404 - 2433 มีฐานะสูงเท่าเทียมเมืองพังงา และถลาง บางครั้งเจ้าเมืองตะกั่วป่ายังได้ดูแลเมืองอื่น ๆ ด้วย รวมทั้งเมืองตะกั่วทุ่ง ถลาง และภูเก็ต จังหวัดพังงา ตั้งอยู่ทางภาคใต้ตอนบนชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกติดกับทะเลอันดามัน อยู่ระหว่างละติจูดที่ 8 องศา 27 ลิปดา 52.3 ฟิลิปดาเหนือกับเส้นลองติจูดที่ 98 องศา 32 ลิปดาตะวันออก ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 788 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 4,170.885 ตารางกิโลเมตร หรือ ประมาณ 2,606,803.125 ไร่ เป็นอันดับที่ 9 ของภาคใต้และเป็นอันดับที่ 54 ของประเทศ

จังหวัดพังงามีการปกครองส่วนภูมิภาคแบ่งออกเป็นระดับอำเภอ จำนวน 8 อำเภอ ระดับตำบล จำนวน 48 ตำบล และระดับหมู่บ้าน จำนวน 314 หมู่บ้าน

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ

1. เกาะสิมิลัน

หาดทรายนุ่มๆและน้ำทะเลสีฟ้าใสๆ และความสะอาดที่เต็มเปี่ยม นักท่องเที่ยวหลายคนมักจะไปเที่ยวที่เกาะสิมิลันกันค่ะหากแวะมา พังงาที่เที่ยว แล้ว กิจกรรมส่วนใหญ่คงเป็นการดำน้ำดูปะการัง เรียกได้ว่าสวยงามมากๆ บรรยากาศก็ดี ถ่ายรูปก็ออกมาสวยแน่นอนรับประกันค่ะ ใครยังไม่เคยไปต้องลองไปสักครั้งนะคะ แล้วจะติดใจค่ะ การบริการต่างๆ หรืออาหารการกินก็จัดว่าดีค่ะ เป็น ที่เที่ยวพังงา ที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนอยากไปสักครั้ง เพราะมันดีมากจริงๆนะคะ เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน เยี่ยมชมปะการังภูเขาหญ้า : ถานที่ท่องเที่ยวระนอง ที่เป็นแลนมาร์ค ที่น่าสนใจอย่าง ภูเขาหญ้า หรือที่บางคนเรียกว่า ภูเขาหัวล้าน หรือบางคนก็จะเรียกว่า ภูเขาสองสี สถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่น่าไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งให้ได้นะคะ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ความสวยงามก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามช่วงฤดูกาลนั้นๆ เที่ยวระนองเดือนไหนดี อย่างช่วงหน้าฝนก็จะเห็นหญ้าเป็นสีเขียวขจีสวยงาม แต่พอช่วงหน้าหนาวก็จะเห็นหญ้าเป็นสีทองอร่ามดูสวยและแปลกตามากๆ อีกทั้งยังสามารถเดินขึ้นไปบนสันเขาเพื่อชมวิวของบรรยากาศรอบๆ ได้อีกด้วยนะ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าพาครอบครัวไปนั่งปิกนิกและพักผ่อนในวันหยุดเป็นอย่างยิ่ง

2.กาะสุรินทร์

ที่เที่ยวพังงา อีกที่หนึ่งที่มีความงดงามและเหมาะแก่การมาเที่ยว นอกจากน้ำทะเลสีฟ้าใสแล้วยังมีหาดทรายสีนวลๆให้มาเล่นกันอีกด้วย การเดินทาง ขึ้นเรือได้ที่อำเภอคุระบุรี ไม่ไกลจาก ที่เที่ยวระนอง บรรยากาศโดยรวมถือว่าดีมากๆ และกิจกรรมที่มาที่เกาะย่อมเป็นการดำน้ำ และเกาะสุรินทร์นี้เป็นที่เที่ยวพังงาจุดดำน้ำตื้นที่สวยงามมากๆเลยค่ะ หากใครไม่ชอบที่จะดำน้ำลึกก็สามารถมาที่เกาะนี้แล้วก็ชมความงามของท้องทะเลโดยไม่ต้องลงไปที่ลึกๆก็ได้ค่ะ วิวหลักร้อยล้านไม่ต่างกับใต้ทะเลแน่นอน

3. สปาโคลนร้อนคลองมะลุ่ย

ซึ่งโคลนที่ว่าเป็นโคลนจากธรรมชาติ หากใครชื่นชอบการท่องเที่ยวชมธรรมชาติและสัมผัสกับธรรมชาติของ ที่เที่ยวพังงา ลึกเข้าไปต้องลองมาดูสักครั้ง การเดินทางสนุกๆก็คงนั่งเรือเยี่ยมชมป่าโกงกางสวยๆ พอมาถึงที่หามายก็จะเดินผ่านทรายร้อนอุ่นๆที่อุณหภูมิกำลังพอดีเล จากนั้นก็ต่อด้วยการแช่น้ำร้อนสบายๆ และตามด้วยไฮไลท์ของเราค่ะ คือการสปาโคลน พนักงานจะพอกโคลนให้เราแล้วก็ทิ้งนอนไว้ จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำที่แอ่งน้ำที่นั่น รับรองค่ะสบายตัวสุดๆ เรียกได้ว่าผิวนุ่มชุ่มชื้น เด้งๆเลยแหละ ท่านไหนอยากลองทำสปาแบบธรรมชาติที่แท้จริงก็ลองมาสัมผัสบรรยากาศของที่นี่ รับรองความดีเยี่ยม

4. ล่องแพคลองวังเคียงคู่

การล่องแพในธารน้ำเป็นอะไรที่สบายสดชื่นมากๆ ล่องแพกับเพื่อนหรือคนรัก ไปเรื่อยๆพร้อมรับชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ บรรยากาศเย็นๆที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด และน้ำเย็นๆที่ไม่ได้ลึกมากค่ะ เราสามารถลงไปเล่นน้ำได้สบายเลย อีกอย่างยังมีบริการอาหารพื้นเมืองอีกด้วย ครบครันแบบนี้ไม่ไปไม่ได้แล้วนะคะ ใครที่ยังไม่เคยล่องแพต้องลองไปสักครั้งนะคะ มันดีมากจริงๆ เป็นทริปพักผ่อนสมองอีกทริปนึงที่ดีมากๆ
สำนักงานฝ่ายเลขานุการฯ CMGF (CMGF Secretariat Thailand)
สำนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และพันธกิจสังคม อาคารสำนักทรัพยากรการเรียนรู้(LRC) ชั้น10
15 ถนนกาญจนวนิชย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110